ผีเสื้อกลางคือ
เวลาจะผ่านไปนานเท่ารัยมันก็ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนใจของคนเราได้
ผู้เข้าชมรวม
215
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ถ่าย... ก่อนขายตัว
ความคิดที่ว่า "ในเมื่อใครๆ ก็ทำได้ ทำไมตัวเองจะทำไม่ได้" ทำให้หญิงสาวหลายคน พกความมั่นใจ เดินเข้าร้านถ่ายรูป แล้วเปลื้องผ้าถ่ายนู้ด โดยให้เหตุผลกับตัวเองว่า เก็บไว้ดูเล่น แต่เมื่อ 'ปมอวดตัว' เล่นตลกและเจ้าตัวนึกสนุก การเปลื้องผ้าครั้งนั้น จึงนำตัวเองเข้าสู่กระบวนการค้าประเวณี
พิษณุรักษ์ ปิตาทะสังข์ รายงาน เพราะภาพหนึ่งภาพมีความหมายมากกว่าคำพูดล้านคำ หลายคนจึงเลือกบันทึกความทรงจำ ด้วยการถ่ายภาพ และเพราะไม่สามารถย้อนเวลาหาอดีตได้ อีกหลายคนก็เลือกเก็บวันเวลาในเป็นภาพถ่าย ยิ่งได้ช่างภาพดีๆ กับมุมกล้องสวยๆ แสงเงาพอเหมาะ ทำให้ภาพนั้นทรงคุณค่า แม้เวลาจะผ่านไปแค่ไหน ไม่ว่าชายหรือหญิง เรือนร่างที่สมส่วนกับวัยที่สมบูรณ์ ใครก็อยากจะเก็บความทรงจำนั้นไว้
เปิ้ล นักศึกษาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ทางภาคเหนือ ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เลือกเก็บสัดส่วนสวยๆ ด้วยการถ่ายภาพ รูปร่างของ เด็กสาววัยที่ ผ่านมาแล้ว 19 ฝน กำลังได้รูป เธอจึงถูกชักชวนให้ถ่ายรูปนู้ด เพื่อเป็นแบบให้กับช่างภาพที่รู้จัก ตอนนั้นเปิ้ลคิดอยู่นานเพราะอาย แต่ความที่ไว้ใจทำให้ลดความกลัวไปได้มาก ประกอบกับตอนนั้น ต้องการใช้เงินด้วย จึงตัดสินใจถ่าย "เพื่อนสนิทบอกว่าถ่ายเป็นศิลป์ก็น่าลอง เพราะเก็บไว้ดูได้ คิดว่าเป็นเรื่อง ส่วนตัว ไม่น่าจะมีอะไรเสียหายด้วย" เปิ้ลจึงตัดสินใจถ่าย เธอยังจำวินาทีที่ต้องเปลื้องผ้าได้ดี ราว 4 เดือนก่อนเปิ้ลก็เพิ่งเข้าสตูดิโอถ่ายภาพนู้ดอีกครั้ง แต่ภาพถูกนำไปเพื่อจุดประสงค์อื่น "ตอนหลังถ่ายเอาไปให้พี่ๆ เขาไว้ เขาเป็นคนหาลูกค้าให้ เมื่อก่อนหาเองแต ่ตอนหลังเพื่อนแนะนำให้ฝากตัวกับเขา เลยสบาย หลังๆ นี้ไม่ค่อยอายๆ เพราะคุ้นเคยกับพี่ช่างภาพ เพื่อนที่ขายก็ถ่ายกัน" วันนี้ เปิ้ลเลือกหารายได้พิเศษด้วยการขายบริการ เมื่อมีลูกค้าต้องการเอเย่นต์จะ โทรศัพท์มาเรียกผ่านทางรูปภาพที่เธอเคยฝากไว้ เปิ้ลเลือกถ่ายชุดนักศึกษา ปลดกระดุม เพราะบ่งบอกสถานะ ของเธอได้ชัดเจน ค่าใช้จ่ายเพียง 300-500 บาทต่อหนึ่งรูป คุ้มค่าพอสำหรับรายได้ที่ จะตามมาครั้งละ 1,000 เป็นอย่างน้อย
Act 1 : กล้องไฟพร้อม นศ.ก็พร้อม การถ่ายภาพนู้ดเป็นสิทธิส่วนบุคคลซึ่งได้รับความนิยมมาช้านานช่างภาพบางคนว่าจ้างหญิงสาวเป็นแบบให้ถ่ายภาพศิลป์ เพื่อให้ร่างกายเป็นตัวบอกเรื่องราวและอารมณ์ของมนุษย์ หญิงในตระก-ูลชั้นสูงนิยมว่า จ้างให้ช่างภาพมือ ฉมังที่คุ้นเคย บันทึกสัดส่วนตนไว้เชยชมในอนาคต ซึ่งอาจจะต้องใช้เงินจำนวนหนึ่ง แต่ปัจจุบันไม่ใช่แค่นั้น การถ่ายภาพ นู้ดกำลังได้รับความนิยมกับกลุ่มคนที่หลากหลายขึ้น "นักศึกษาถ่ายนู้ดกันมากขึ้น"
โน้ต ช่างภาพอาชีพ 8 ปี เจ้าของสตูดิโอเฮ้าส์กลางเมืองเชียงใหม่กล่าวสั้นๆ ก่อน แจก แจงประเภทของ คนถ่ายภาพนู้ดว่า มีด้วยกัน 3 กลุ่ม กลุ่มแรกคือ คนทำงานกลางคืน พวกหมอนวด หรือเด็กทำงานตามเลาจน์ หรือร้านคาราโอเกะ กลุ่มนี้ต้องถ่ายเพราะต้องการเอารูปไปใช้ในการงาน กลุ่มต่อมาพวกที่ถ่ายแบบภาพศิลปะ เป็น Fine Art บ้าง คนกลุ่มนี้มีหลากหลายอายุตั้งแต่วัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา ยันคนทำงาน กลุ่มสุดท้ายคือ กลุ่มนักศึกษา เป็นกลุ่มใหม่ที่เกิดขึ้นไม่นานนัก โน้ตบอกว่า ก่อนนี้นักศึกษาจะมาให้ถ่ายเป็นภาพนู้ด ที่เป็นศิลปะเพื่อจะเก็บไว้เป็นคอลเล็คชั่น แต่ระยะหลังทางร้านให้บริการทำเป็นการ์ดพิเศษ มีปฏิทินด้านหลัง คล้ายบัตรประจำตัว หรือ'นู้ดการ์ด' ทำให้ลูกค้ากลุ่มนี้สนใจมากขึ้น ถ่ายเก็บเป็นแฟชั่น "กลุ่มนักศึกษาที่สนใจส่วน หนึ่งเป็นนักเรียน นักศึกษา ที่เที่ยวกลางคืน เมื่อก่อนไม่เคยรู้เลยว่า เด็กกลุ่มนี้ขายตัว แต่เพราะเป็นคนที่เที่ยว กลางคืนด้วย และพอจะรู้จักเอเย่นต์หลายคน เขาชี้ให้ดูรายตัวเลยว่า คนนั้นคนนี้ขายตัว และเคยเป็นเด็กในสังกัด เรารู้ก็อึ้งไปเลย เด็กบางคนเที่ยวด้วย ขายด้วย แล้วก็เล่นยาด้วย" โน้ตบอกเล่า นู้ดการ์ดเป็นสิ่งที่เข้า มาแทนที่แค็ตตาล็อกนู้ดซึ่งคล้ายกับรายการสินค้าขายตรง แต่เปลี่ยนจากสินค้าเป็นหญิงสาวในกิริยาเซ็กซี่ แล้วบอกสัดส่วนหรือเบอร์โทรติดต่อกลับ ที่อาจจะพบเห็นได้ตามตู้โทรศัพท์ หรือเคาน์เตอร์บริษัท หรือที่พักโรงแรมทั่วไป แต่แค็ตตาล็อกต้องหลีกทางให้นู้ดการ์ด ซึ่งนักเรียนนักศึกษาที่ขายตัวสามารถ นำไปเสนอขายให้กับเอเย่นต์อย่างเป็นส่วนตัว
ในจำนวนนักศึกษาที่ขายบริการนิยมถ่ายในเครื่องแบบนักศึกษา เหตุผลเพราะขายง่าย และกำลังเป็นที่ต้องการของตลาด ช่างภาพคนเดิมบอกว่าคอลเล็คชั่น ชุดนักศึกษาเพิ่งมา นิยมในช่วงปีหลังนี้ ซึ่งได้กระแสมาจากนักศึกษาขายตัว บางคนแกะกระดุมออกหนึ่ง หรือสองเม็ด เด็กบางคนถ่ายกับเสื้อเชิร์ตแต่ไม่ใส่เสื้อชั้นใน หรือบางคนเปลือยอกก็มี ที่ผ่านมาพบว่าพวก ที่ต้องการถ่ายแบบศิลปะน้อยกว่าพวกที่ถ่ายตามกระแส "เด็กเขาไม่วอรี่เลย บอกให้แก้ก็แก้เดี๋ยวนั้น แล้วเด็กออกแบบท่าทางเองด้วย บางคนท่าไม่สวยหรือยังอายอยู่ เราก็ใช้วิธีก็อปท่าจากวิดีโอโป๊ของญี่ปุ่น พวกที่มีท่าเซ็กซี่ แต่เราเน้นท่าที่เป็นธรรมชาติสำหรับลูกค้า บางคนวันเดียวมา 3 ครั้ง ส่วนใหญ่เป็นแบบ ปากต่อปาก เพื่อนที่เคยถ่ายก็ชวนกันมา ช่วงหลังผู้ชายก็มาถ่ายเหมือนกัน" ค่าใช้จ่ายในการถ่ายทำนู้ด ของร้านมีหลายราคา โน้ตบอกว่า ตั้งแต่ 250-600 บาท แต่ทั้งหมดยืนยันว่าเป็นความลับ ระหว่างลูกค้า กับช่างภาพ ไม่มีการนำไปเผยแพร่ที่ไหน เพราะทั้งหมดเก็บเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งลูกค้าจะทราบรหัสผ่าน (Password) "เขาไม่ถ่ายกับเรา เขาก็ต้องไปถ่ายที่อื่น" ประสบการณ์กว่า 8 ปีทำให้โน้ตคิดอย่างนั้น เพราะช่างภาพที่ถ่ายนู้ดมีหลายคน เขาบอกว่า คนถ่ายบางส่วนเพื่ออยากเก็บไว้ดูตอนแก่ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่บางส่วนอาจจะถ่ายเพราะเป็นเรื่องของกระแส โดยเฉพาะเด็กๆ หรือนำไปทำธุรกิจซึ่งต้องว่ากันเป็นรายๆ ไป
Act 2 : สื่อสุมไฟกระแสนู้ด
ภาพนักศึกษานู้ดไม่ว่าจะเป็นแค็ตตาล็อกหรือการ์ด อาจจะไม่แปลก อะไรนัก ในยุคที่นักศึกษาบางส่วนเลือก ทำมาหากินด้วยการขายบริการ ว่ากันว่า ในญี่ปุ่นมีแค็ตตาล็อกและการขาย บริการอย่างนี้ให้พบเห็นได้บ่อยครั้ง โดยเฉพาะนู้ดในคราบนักเรียนนักศึกษา "เด็กบางคนถ่ายเพราะตามกระแส" โน้ตวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนจะว่าต่อ "ผมคิดมาหลายครั้งแล้วว่าสื่อมีส่วนมาก เด็กบางคนไม่ได้คิด อะไรมาก อยากถ่ายก็ถ่ายเลย ทุกวันนี้เราก็เห็นคนเปลื้องผ้าง่ายมาก ตามหน้าหนังสือพิมพ์รายวัน หรือรายสัปดาห์ก็มีเกลื่อน เด็กเขาก็คิดว่า คนอื่นถ่ายได้ ทำไมเราจะถ่ายไม่ได้ แต่เขาไม่ได้มองสถานะที่แตกต่างกัน ยิ่งบางคนถ่ายแล้วดังด้วย เด็กก็อยากถ่ายตาม" นอกจากโน้ตแล้ว ช่างภาพอย่าง แหม่ม (ขอสงวนชื่อจริง) ก็เห็นไม่ต่างกัน แหม่มเป็นช่างภาพ อิสระผ่านงานถ่ายภาพ ให้กับนิตยสารหลายฉบับ สำหรับนู้ดรับถ่ายเฉพาะกลุ่มคนชั้นสูง ส่วนใหญ่เป็นลูก ของหม่อม ในตระก ูลสูง แบบว่าเอ่ยชื่อมาทุกคนรู้จักหมด มีทั้งทำงานแล้วและวัยรุ่น "คนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ โตเมืองนอก ไม่รู้สึกหรอกว่าเรื่องการเปลื้องผ้าถ่าย เป็นเรื่องแปลกหรือผิดอะไร โดยเฉพาะการถ่ายเอาไว้ดูยามแก่ งานออกมาแบบอาร์ต" นอกจากถ่ายเดี่ยว กลุ่มไฮโซยังนิยมถ่ายแบบ แฟมิลี่คอลเล็คชั่น แม่กับลูก หรือพ่อแม่ลูก ส่วนใหญ่เป็นคุณแม่ยังสาว กับลูกน้อยวัยน่ารัก แหม่มยอมรับว่า ไฮโซบางกลุ่มก็ถ่าย เพราะว่าเป็นเรื่องของ กระแสเหมือนกันเหมือนกับคุยกันเรื่องรถคันใหม่ คนนี้ซื้อแล้ว คนอื่นๆ ก็ต้องซื้อด้วย ใครยังไม่เคยถ่ายนู้ดก็ต้อง ถ่ายเหมือนเพื่อนในกลุ่ม "ไม่แปลกที่เด็กจะนิยม ถ่ายกันมาก ความจริงคนกลุ่มไหนถ่าย ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ในมุมมองของช่างภาพเรามองว่า ร่างกายของคนเราสวย กันทั้งนั้น อยู่ที่ว่าจะถ่ายออกมาอย่างไร แต่ตอนนี้บางคนมองว่า ต้องถ่ายเฉพาะเด็กสาวๆ เพราะขายได้ ทำให้เด็กๆ อยากถ่ายและไม่ค่อยได้คิดอะไร" แหม่มพูดไปถึงกระแสการถ่ายภาพ ที่หยิบจับเอาเด็กวัยละอ่อนมาขึ้นปกหนังสือ วาบหวิว หรือคนที่มีชื่อเสียงมา โชว์ความเซ็กซี่บนหน้าหนังสือพิมพ์ เหล่านี้เพียงพอที่จะปลุกทัศนคต ิให้เด็กสาวสักคนหันมาเปลื้องผ้าถ่ายบ้าง ไม่ว่าจะเก็บเป็นคอล เล็คชั่น หรือถ่ายเป็นอัลบั้มเพื่อส่งเอเย่นต์
เช่นเดียวกับ ดล ช่างภาพอายุงาน 9 ปี ผ่านงานมาหลากหลายทั้งงานโฆษณา ถ่ายปกเทปค่ายใหญ่ และอาจารย์พิเศษ มองว่า งานถ่ายนู้ดเป็นงานที่ท้าทาย สำหรับช่างภาพ ท้าทายที่ว่าจะถ่ายอย่างไร ให้เป็นภาพศิลปะ แต่ตอนนี้อาจจะเปลี่ยนไป "ยอมรับว่าตอนนี้เป็น เรื่องธุรกิจจริงๆ เรื่องเด็กผู้หญิงนิยมถ่ายมาก ขึ้นจึงเป็นเรื่องไม่แปลกมากหรอก สังเกตดูตอนนี้ตาม หน้าแผงก็มีแต่เด็กๆ ที่ขึ้นปก เพราะมันขายได้ง่าย บางคนเป็นดาวมหาวิทยาลัย" เปรียบเทียบกับที่ผ่านมา ดลบอกว่า การเลือกคน ถ่ายเมื่อก่อนคนนิยมถ่ายเพราะคิดว่า นู้ดเป็นการบอกคนด้วยภาพให้เห็นถึงศิลปะ ของเรือนร่าง แต่ตอนนี้ใครก็อ้างว่าถ่ายเพราะศิลปะ "ผมแอนตี้นู้ดที่อยู่ตามแผงหนังสืออย่างนั้นเข้าข่ายอนาจาร นู้ดที่สวยเป็น Fine Art เน้นที่กล้ามเนื้อ ร่างกายอย่าง นั้นเรียกว่าศิลปะ แต่ตอนนี้ใครอยากดังก็ถ่ายนู้ด กลายเป็นเรื่องของธุรกิจเข้า มาก่อนพูดเรื่องศิลปะ หนังสือพิมพ์ที่ถ่ายขึ้นหน้าหนึ่งก็ยิ่งแล้วใหญ่ มันกลายเป็น กระแสเน่าๆ เป็นแนวคิดตามอย่างตะวันตกเกินไป สื่อเองต้องกลับมาทบทวน สมาคมที่เกี่ยวข้องกับสื่อ ทั้งหลายต้องพิจารณา เพราะมีส่วนหล่อหลอม ให้เขาเป็นอย่างนั้น" ดลให้บทสรุป
Act 3 : สำนึกอวดตน
ถามว่า เด็กสาวสักคนหนึ่งเห็นผู้หญิงถ่ายภาพวาบหวิวตามหน้าหนังสือ แล้วสามารถเกิดอาการอยาก ถ่ายตามได้เลยหรือ ..คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอก เพียงแต่สื่อในทุกวันนี้ กำลังถูกตั้งคำถามเรื่องความพอเหมาะ ในการนำเสนอภาพวาบหวิว ซึ่งคล้ายกับเป็นแฟชั่น มิหนำซ้ำกำลังประจวบเหมาะกับกระแส ที่นักศึกษาส่วนหนึ่งขายบริการทางเพศ "การถ่ายนู้ดเป็นหนึ่ง ในวิสัยของการอวดตน" กิติกร มีทรัพย์ นักวิชาการกรมสุขภาพจิต อธิบายสั้นๆ ก่อนขยายความว่า อวดตนในที่นี้หมายถึง อวดร่างกายและ อวัยวะว่ามีครบถ้วนสมบูรณ์เหมือนคนอื่น สำหรับบางคน ไม่มีโอกาสได้อวด ก็ต้องเก็บกดความอยากอวดนั้นไว้ เมื่อมีโอกาสก็จะอวดทันที ในลักษณะที่สังคมยอมรับได้ อาจจะตรงไปตรงมา หรือโดยแยบยลต่างๆ กล่าวโดยสรุปการอวดตน เป็นพลังที่หลงรักตนเอง หรือนาซีซัส(Nacissistic) ซึ่งนักวิชาการกรม สุขภาพจิตบอกว่า มีอยู่โดยธรรมชาติและบางคน ก็มีเป็นจำนวนมาก ก่อนหน้านี้ กิติกร เคยเขียนไว้ในมติชน สุดสัปดาห์ถึงการอวดตน ด้วยการถ่ายภาพเซ็กซี่ว่า แน่นอนว่าสตรีเก็บกดความอยากอวด ตนมากว่าชาย เพราะสังคมให้โอกาสบุรุษเพศโดยทั่วไปได้อวดตนมากกว่า การเก็บกดจึงน้อยกว่า แต่ถึงแม้สังคมจะให้โอกาส ผู้หญิงได้อวดตนน้อยกว่าก็จริง สตรีก็ไม่ยอมแพ้ แต่จะอาศัยวิธีการที่แยบยลยิ่งขึ้น เพื่อลดแรงเก็บกดให้น้อยลง เพื่อชีวิตจะได้สมดุล "การเป็นนางแบบนู้ดเป็น 1 ใน 4 ทางออกของผู้หญิงที่ นักจิตวิทยาเชื่อว่า ต้องการแสดงออกเพื่ออวดตน อาจจะเป็นแบบธุรกิจ หรือเป็นศิลปะก็ได้ทั้งสองแบบ ขณะเดียวกันเป็นทางออก ให้สตรีบางคน ได้ระบายแรงผลักดัน ที่จะอวดตนต่อผู้อื่นหรือสาธารณะได้เป็นอย่างดี ความเป็นธุรกิจศิลปะ หรือความเป็นอาชีพช่วยลดความรู้สึกบาป (Guilty) ให้พวกเธอได้มากเป็นพิเศษ" การอวดตนจึงเป็นเรื่องส่วน บุคคลที่เกิดขึ้นจากจิตภายใน ในขณะที่สิ่งเร้าภายนอกอย่างสื่อ ก็ทำหน้าที่ขับเคลื่อนและปลุกกระแสนู้ดอยู่ทุกวัน จนทำให้ปัญหาในตอน นี้เชื่อมโยงกันไปทุกส่วน
ในทรรศนะของนักวิชาการด้านการศึกษาอย่าง สมพงษ์ จิตระดับ คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อธิบายภาพดังกล่าวว่า เป็นความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ บ่งบอกว่าพัฒนาการของ ปัญหานักศึกษา ขายตัวก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง อาจารย์สมพงษ์สนใจตรงที่นักศึกษา มีวิธีขายตรงที่เชื่อมโยง กับระบบตลาด โดยการถ่ายภาพสรีระ เรื่องนี้อาจจะเชื่อมโยงไปสู่การใช้ภาพ ในอินเทอร์เน็ตซึ่งนักศึกษาต้องระวัง นักศึกษาถ่ายนู้ดแล้วขายตัวจึงทำให้มอง ได้ว่าตลาดนักศึกษา ขายตัวที่หลายฝ่ายพยายามให้ข้อมูลกับสังคมนั้น ไม่ได้ลดลงเลย อาจารย์สมพงษ์มองว่า สิ่งที่น่าวิตกกังวลคือ สถานศึกษากลับไม่ยอมรับ โดยการปกปิด ไม่พูดถึง ซึ่งเท่ากับทำให้ปัญหายิ่งลุกลาม "การที่สถานศึกษาปฏิเสธปัญหา ทำให้ไม่แปลกใจที่เกิดกระแสนักศึกษา ถ่ายนู้ดเพื่อนำไปขายตัว" อาจารย์สมพงษ์พูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ยิ่งประกอบกับการขับเคี่ยวทางธุรกิจ ของสื่อที่ต้องการขายภาพเซ็กซี่ อาจารย์สมพงษ์ ยิ่งอดเป็นห่วงไม่ได้ ซึ่งอาจารย์ให้บทสรุปสั้นๆ ว่า "ทำให้คุณค่าของตัวคนยิ่งต่ำลงเรื่อยๆ" บทสรุปที่ว่านั้นอาจจะตัดสินไม่ได้ภายในวันนี้หรือพรุ่งนี้ เพราะการถ่ายนู้ดของนักศึกษาบางกลุ่ม เป็นเพียงอีกก้าวหนึ่งของปัญหาที่ดิ่งลงตามกระแสสังคมนิยมวัตถุ ในเมื่อสื่อก็ต้องการเม็ดเงินค่าโฆษณา เลยต้องมีภาพดาราเซ็กซี่ขึ้นหน้าหนึ่ง สถาบันการศึกษาก็ต้องปกปิด ปัญหาเพื่อไม่ให้อับอายใคร แล้วจะผิดอะไร ถ้านักศึกษาจะต้องการ มือถือ กระเป๋าหลุยส์ หรืออีกมากมายที่เพื่อนๆ เขามีกัน
ผลงานอื่นๆ ของ สมุดปกสีดำ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ สมุดปกสีดำ
ความคิดเห็น